“เริ่มมีรายได้ประจำ แถมยังมีรายได้เสริมจากการขายของออนไลน์ จะซื้อบ้าน หรือเช่าอยู่ แบบไหนดีกว่ากัน”
“อยากมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง แต่ยังไม่แน่ใจว่า…พร้อมมั๊ย”
ก่อนอื่นคงต้องตรวจเช็คความพร้อมด้านการเงินเป็นอันดับแรก เพราะการซื้อบ้านในช่วงเวลานี้ จำเป็นต้องขอใช้บริการสินเชื่อ หรือเรียกง่ายๆ ว่า “กู้เงินซื้อบ้าน” เมื่อกู้ ก็ต้องผ่อน เพื่อลดความเสี่ยงเราควรเลือกซื้อบ้านในราคาที่เมื่อคำนวณเงินผ่อนชำระรายเดือนแล้ว ควรใกล้เคียงกับค่าเช่าบ้าน
ที่สำคัญดอกเบี้ยจากการผ่อนบ้านปีละไม่เกิน 1 แสนบาท สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ในขณะที่ค่าเช่าบ้านมาหักลดหย่อนใดๆ ไม่ได้เลย
ส่วนข้อเสียของการซื้อบ้านเป็นของตัวเอง คือการมีบ้านสักหลังมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นตามมา เช่น ค่าตกแต่ง ค่าดูแลรักษาและซ่อมบำรุงหากชำรุดทรุดโทรม รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนกลางซึ่งทางผู้ขายเรียกเก็บไว้เพื่อบริหารส่วนกลางของหมู่บ้าน ดังนั้นการเปลี่ยนจากเช่าบ้านอยู่ มาเป็นการซื้อบ้านที่ได้กรรมสิทธิ์ ต้องวางแผนการเงินให้รอบครอบ แบ่งเก็บเงินไว้หลายก้อน ทั้งก้อนที่เอาไว้ดูแลบ้าน ก้อนเอาไว้สำรองหากเจอเรื่องฉุกเฉิน
ซึ่งต่างกับการที่เราเลือกเช่าบ้าน ชีวิตจะไม่มีภาระผูกพันทางการเงินกับธนาคาร เมื่อเราได้งานใหม่ หรือเมื่อมีงานที่ต้องไปต่างจังหวัดเป็นเวลานาน ๆ เราสามารถย้ายบ้านได้ทันที แค่ทำเรื่องย้ายออก แล้วมองหาบ้านเช่าหลังใหม่ตามที่เราต้องการได้ รวมถึงการเช่าบ้านทำให้เรามีอิสระทางการเงินมากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเงินมาดูแลรักษา หรือซ่อมแซมบ้าน
สำหรับข้อเสียของการเช่าบ้านก็คือเราไม่มีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของที่อยู่ ไม่ว่าเราจะเสียค่าเช่ามากน้อยแค่ไหน หรือจ่ายมากี่ปี หากเจ้าของบ้านเช่าต้องการบ้านคืน เราก็ต้องหาที่อยู่ใหม่ และค่าเช่าบ้านอาจมีราคาที่มากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะตอนนี้เกิดสภาวะเงินเฟ้อเจ้าของบ้านเช่าก็อาจปรับราคาเช่าให้สูงขึ้นเพื่อหนีเงินเฟ้อ
เปรียบเทียบแล้วคงตัดสินใจไม่อยาก
เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนการเช่ามาเป็นซื้อ สิ่งแรกคือเลือกโครงการบ้านจากทำเลที่ใช่ และเมื่อหาโครงการบ้านในทำเลที่เราสนใจ ต้องดูด้วยว่ารอบ ๆ โครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง เช่น รถไฟฟ้า ทางด่วน หรือห้างสรรพสินค้า เมื่อถ้าเราได้อยู่จะช่วยให้ชีวิตครอบครัวสบายขึ้น
ส่วนต่อไปที่เราต้องดูคือประเภทบ้านแบบไหนที่เหมาะกับตัวเรา ถ้าหากอยู่กัน 1-3 คน การมองหาบ้านทาวน์โฮม เป็นทางเลือกที่ดี เพราะไม่ต้องดูแลอะไรมาก แต่ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่อาจต้องขยับไปมองประเภท บ้านแฝด หรือบ้านเดี่ยว ทั้งหมดนี้มีผลในเรื่องของราคาที่เราจะกู้เงินซื้อบ้าน อยากให้เลือกบ้านที่เหมาะกับเราจริง ๆ เวลาผ่อนจะได้สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด
ต่อมาต้องดูรายได้ของเราพอที่จะซื้อเอง หรือจำเป็นต้องหาผู้กู้ร่วม ซึ่งถ้ามีผู้กู้ร่วมธนาคารเจ้าของสินเชื่อบ้าน จะพิจารณาอนุมัติเงินกู้ได้ง่ายหน่อย เพราะมองว่ามีกำลังมากพอที่จะผ่อนชำระหนี้ได้
หากเปลี่ยนจากเช่า มาเป็นซื้อบ้าน ควรมีครบ 3 เงื่อนไข
- มีหน้าที่การงานมั่นคง เพราะการซื้อบ้านสักหลัง จะต้องมีภาระการผ่อนในระยะยาว
- ไม่มีภาระหนี้สินก้อนใหญ่ เพราะหากยังจัดการกับภาระหนี้สินก้อนใหญ่ได้ไม่เรียบร้อย จะทำให้ต้องผ่อนหนี้หลายทาง การใช้ชีวิตก็จะไม่มีความสุข
- ต้องมีความพร้อมทางการเงิน หากรายรับเหลือเก็บ มีเงินสำรองยามฉุกเฉินมากว่า 6 เดือน เงินผ่อนที่ต้องโดนหักต่อเดือนแล้ว ไม่กระทบกับการใช้ชีวิต ก็ตัดสินใจได้ง่ายเลย