
อิฐมวลเบา อิฐมอญ หรือ แผ่น Pre–Cast แบบไหนเหมาะกับการรับมือแผ่นดินไหวได้ดีที่สุด
ไม่นานมานี้ ประเทศไทยได้เกิดแผ่นดินไหวและสร้างความเสียหายให้กับที่อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก แผ่นดินไหวเป็นภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า และอาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างของบ้านและอาคาร หรือ หลายๆคนก็กำลังมองหาบ้านโดยคำนึงถึงความทนทานต่อภัยพิบัติมากขึ้น การเลือกวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมสำหรับการรับมือกับแผ่นดินไหวจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะผนังบ้านที่มีบทบาทในการช่วยเสริมความแข็งแรงของอาคาร ในบทความนี้เราจะมาวิเคราะห์กันว่า ระหว่าง อิฐมวลเบา, อิฐมอญ, และ แผ่น Pre–Cast แบบไหนที่เหมาะสมที่สุดในการรับมือกับแผ่นดินไหว
วันนี้เราจะมาไขคำตอบกัน!
- 1. อิฐมวลเบา (AAC): เบาแต่ไม่เบา
ถ้าพูดถึงอิฐมวลเบา อาจจะมีใครหลายคนคิดว่าวัสดุนี้คงจะไม่มีความแข็งแรงสักเท่าไร แต่ที่จริงแล้วอิฐมวลเบามีความแข็งแรงพอสมควร และที่สำคัญคือ เบามาก! เมื่อใช้ในการก่อสร้างบ้านหรืออาคาร อิฐมวลเบาจะช่วยลดภาระของโครงสร้าง ทำให้เมื่อเกิดแผ่นดินไหวแรง ๆ ตัวอาคารจะสามารถเคลื่อนที่ได้โดยไม่เสี่ยงต่อการแตกหัก
ข้อดี:
- น้ำหนักเบาช่วยลดแรงกระแทกจากแผ่นดินไหว
- ฉนวนกันความร้อนและเสียงดี
- ติดตั้งได้เร็วและง่าย
ข้อจำกัด:
- แม้จะมีความแข็งแรงพอสมควร แต่เมื่อเกิดแผ่นดินไหวที่มีแรงมาก อาจมีโอกาสที่วัสดุนี้จะเกิดการแตกหักได้หากไม่เสริมด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงพอ
- 2. อิฐมอญ: แข็งแกร่งพอทนแรงกระแทก
มาถึง อิฐมอญ กันบ้าง วัสดุนี้เป็นที่รู้จักกันดีในด้านความทนทานและความแข็งแรงสูง อิฐมอญมีความแข็งแรงที่เหมาะกับการรับแรงกระแทกจากแผ่นดินไหวมากๆ เพราะมันสามารถรับแรงจากการสั่นสะเทือนได้ดี โดยไม่แตกหักหรือพังง่าย ๆ อย่างไรก็ตาม น้ำหนักของอิฐมอญก็ถือเป็นข้อควรระวัง เพราะมันอาจเพิ่มภาระให้กับโครงสร้างได้หากไม่ได้ออกแบบมาอย่างดี
ข้อดี:
- แข็งแรงทนทาน เหมาะกับการรับมือแผ่นดินไหว
- รับแรงกระแทกได้ดี
ข้อจำกัด:
- น้ำหนักมาก ทำให้โครงสร้างต้องรับภาระมากขึ้น
- ค่าก่อสร้างสูงกว่าผนังวัสดุเบาบางชนิด
- 3. แผ่น Pre–Cast: ติดตั้งง่าย ทนทานสุด ๆ
ถ้าคุณกำลังมองหาวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง แผ่น Pre–Cast คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม! แผ่น Pre-Cast คือแผ่นคอนกรีตที่ผลิตในโรงงานแล้วนำมาติดตั้งที่หน้างาน ซึ่งมันมีความแข็งแรงสูงมาก เพราะทำจากคอนกรีตเสริมเหล็ก จึงสามารถรับแรงจากแผ่นดินไหวได้อย่างดีเยี่ยม แต่ข้อเสียคือน้ำหนักที่มาก อาจเพิ่มภาระให้กับโครงสร้างอาคาร
ข้อดี:
- ทนทานและแข็งแรงมาก เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหว
- คุณภาพมาตรฐานจากโรงงาน คอนกรีตมีความสมบูรณ์แบบ
- ติดตั้งได้รวดเร็ว
ข้อจำกัด:
- น้ำหนักมาก อาจเพิ่มภาระให้กับโครงสร้าง
- ราคาสูงและต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการติดตั้ง
เมื่อพูดถึงการเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการรับมือแผ่นดินไหว เราต้องพิจารณาหลายปัจจัยทั้งในด้านความแข็งแรง น้ำหนัก และราคาของวัสดุ
- อิฐมวลเบา เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวัสดุเบาและราคาประหยัดที่ยังสามารถรับมือกับแผ่นดินไหวได้
- อิฐมอญ เหมาะกับคนที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทกจากแผ่นดินไหว แต่ต้องพร้อมกับการรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น
- แผ่น Pre–Cast เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูงสุด แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงและน้ำหนักที่มาก
ท้ายที่สุดการเลือกวัสดุก่อสร้างต้องขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของอาคาร และงบประมาณที่มี แต่ที่สำคัญคือ อย่าลืมออกแบบโครงสร้างให้สามารถรองรับแรงจากแผ่นดินไหวได้อย่างเต็มที่เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย
แหล่งอ้างอิง:
- สมาคมวิศวกรรมป้องกันแผ่นดินไหวแห่งประเทศไทย (TIEE) www.tieethai.org
- กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (กรมโยธาธิการและผังเมือง) – “คู่มือการออกแบบอาคารเพื่อความปลอดภัยจากแผ่นดินไหว” www.dpt.go.th
- “วัสดุก่อสร้างในงานวิศวกรรมป้องกันภัยธรรมชาติ: การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมในพื้นที่เสี่ยงแผ่นดินไหว” สถาบันวิจัยวิศวกรรมอาคารและป้องกันภัย, 2021
- มาตรฐานการออกแบบอาคารให้รองรับแผ่นดินไหว (ไทย) โดย กรมโยธาธิการและผังเมือง, 2563
เลือกวัสดุให้ดี และสร้างบ้านที่มั่นคงเพื่อรับมือกับแผ่นดินไหวได้อย่างมั่นใจ!