ใครที่กำลังวางแผนซื้อบ้านฟังทางนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมที่จะยกเลิกมาตรการผ่อนคลายการปล่อยสินเชื่อ เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย โดยจะเริ่มกลับมาคุมเข้มอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป
มาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัย หรือที่เรียกกันติดปากว่า มาตรการคุม LTV (loan-to-value ratio) ซึ่งก็คือการคุมอัตราส่วนสินเชื่อต่อราคาที่อยู่อาศัย หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การคุมวงเงินปล่อยกู้ซื้อบ้านนั่นเอง จากที่เคยกู้ได้เต็ม 100-110% ก็จะกู้ได้น้อยลงสำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยในบางลักษณะ
มาดูกันครับว่า มาตรการคุม LTV นั้นคุมวงเงินปล่อยกู้อะไรบ้าง จะได้เตรียมการวางแผนทางการเงินกันไว้แต่เนิ่นๆ
จริงๆ มาตรการคุม LTV ได้ประกาศใช้มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 และได้มีการผ่อนคลายมาตรการให้ปล่อยกู้ได้ 100-110% มาตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม 2564-วันที่ 31 ธันวาคม 2565 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 และตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 จะกลับไปมาตรการคุม LTV เช่นเดิม
ทั้งนี้มาตรการคุม LTV กำหนดให้การซื้อที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทในสัญญาเงินกู้ที่ 1 หรือการซื้อบ้านหลังแรก จะยังสามารถกู้ได้สูงสุดถึง 110% (กู้ซื้อบ้าน 100%+กู้เพิ่มเติมได้อีก 10%)
ดังนั้นคนซื้อบ้านหลังแรกอย่างเราๆ ท่านๆ ที่คงมีกำลังซื้อได้ในราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท ก็คงไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เพราะสามารถกู้ได้เต็มวงเงิน แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถในการผ่อนชำระของผู้กู้เป็นสำคัญว่าจะกู้ได้ในวงเงินมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้ต้องปรึกษากับธนาคารดูก่อนที่จะวางแผนซื้อบ้าน
ในกรณีที่เป็นผู้กู้ร่วม ถ้าผู้กู้ร่วมไม่มีกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนั้น ก็จะยังไม่นับสัญญานั้นเป็นสัญญาของผู้กู้ร่วม ยกตัวอย่างเช่นนาย ก กับ นส. ข กู้ซื้อบ้านร่วมกัน โดยที่นาย ก เป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนั้นแต่เพียงผู้เดียว จึงไม่นับว่าเป็นสัญญากู้ของ นส. ข เมื่อนส. ข ไปกู้ซื้อบ้านเองคนเดียวจึงจะนับสัญญาใหม่นี้เป็นสัญญาแรกของนส. ข
สำหรับบ้านราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท ถือเป็นการซื้อในสัญญาเงินกู้ที่ 2 หรือเป็นการซื้อบ้านหลังที่ 2 จะสามารถกู้ได้สูงสุด 90% หากผ่อนบ้านในสัญญาแรกไปแล้ว 2 ปีขึ้นไป โดยจะต้องวางเงินดาวน์ 10% และกู้ได้สูงสุด 80% หากผ่อนบ้านในสัญญาแรกไปไม่ถึง 2 ปี ซึ่งจะต้องวางเงินดาวน์ในกรณีนี้ 20%
ถ้าเป็นการซื้อบ้านราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท สัญญาที่ 3 หรือหลังที่ 3 ขึ้นไป สามารถกู้ได้สูงสุด 70% โดยจะต้องวางเงินดาวน์ 30%
ในกรณีที่ซื้อบ้านราคาเกินกว่า 10 ล้านบาท เป็นบ้านหลังแรก จะสามารถกู้ได้สูงสุด 90% ถ้าเป็นบ้านหลังที่ 2 กู้ได้สูงสุด 80% และถ้าเป็นบ้านหลังที่ 3 ขึ้นไป กู้ได้สูงสุด 70%
สำหรับคนที่เตรียมตัวจะขอสินเชื่อถ้าเป็นการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมหลังที่ 2-3 ขึ้นไป หากพ้นจากวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ไปก็ต้องเตรียมเงินเอาไว้จ่ายส่วนต่างจากวงเงินถ้าจะกู้ได้ลดลง ส่วนคนเตรียมจะซื้อบ้านหรือคอนโดปีหน้าก็ต้องวางแผนการเงินเอาไว้แต่เนิ่นๆ เช่นกันครับ