Guide dog
หรือสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดควบคู่ไปกับไม้เท้าขาว สำหรับในประเทศไทยที่มีคนตาบอดมากถึง 600,000 คนโดยประมาณ แต่จำนวนสุนัขนำทางนั้นกลับแทบไม่มีเลย เป็นเพราะอะไร มาดูกัน
1.กฎหมายที่ไม่ครอบคลุม
ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมาย พ.ร.บ. คนพิการที่ว่าสัตว์นำทางถือเป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้พิการทางการเห็นเช่นกัน แต่ในทางปฎิบัติแล้ว สถานที่ต่างๆยังมีกฎห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าภายในสถานที่ หรือ ร้านอาหาร รวมไปถึงสุนัขนำทางด้วย
2.พื้นที่เดินที่ไม่เอื้ออำนวย
อย่างที่เรารู้กันดีว่าพื้นถนนหรือทางเท้าของประเทสไทยนั้นค่อนข้าวมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น หลุม พื้นไม่เรียบ มีแอ่งน้ำสกปรก เสา ถุงขยะ ป้ายโฆษณา และแผงขายของต่างๆ ขนาดคนตาดียังเกิดอุบัติเหตุได้ สำหรับผู้พิการทางการเห็นนั้นอาจอันตรายถึงชีวิต สำหรับสุนัขนำทางพวกเขาจะมองเห็นสิ่งกีดขวางเหล่านั้นแทน และพาหลบเลี่ยงก่อนถึงตัว แต่นอกจากอุปสรรคที่ทำให้การทำงานของเหล่าน้องๆยากขึ้นไปอีก ก็คือรถจักรยานยนตร์ขับขึ้นทางเท้า นอกจากอันตรายต่อคนแล้ว ยังอันตรายต่อสุนัขนำทางเช่นกัน
3.น้องทำงานอยู่นะ
บางคนยังไม่รู้จักสุนัขนำทางคิดว่าคือสัตว์เลี้ยง อาจจะเพราะไม่เป็นที่นิยมในไทย และมีราคาสูงมาก คนส่วนใหญ่ มักจะเข้าไปเล่นหรือไปแหย่สุนัขนำทาง นั้นคือเรื่องที่เราไม่ควรทำเมื่อเจอน้องข้างนอก เพราะอาจจะทำให้สุนัขนำทางเสียสมาธิจนเกิดอันตรายต่อผู้พิการทางการเห็นได้ สังเกตง่ายๆสุนัขนำทางจะมี ‘บังเหียน’ สำหรับบังคับทิศทางหากเจอน้องที่ไหนพยายามอย่าเข้าไปเล่นหรือเรียกเขาเพราะว่าน้องกำลังทำงานอยู่นะ
4.สุนัขเจ้าถิ่น
อีกปัญหาที่เห็นกันมานานคือ กลุ่มสุนัขจรจัดที่วิ่งไล่หรือเห่าใส่คนเดินถนน แม้แต่สุนัขนำทางก็อาจจะโดนเห่าไล่จนทำให้เสียสมาธิ หรือโดนทำร้าย เพราะผู้พิการทางการเห็นไม่สามารถรู้ได้เลยว่าทางที่ตะต้องเดินไปนั้น มีสุนัขจรจัดหรือไม่ สิ่งที่ทำได้ก็คือมีผู้ช่วยในการสำรวจทางที่ปลอดภัยเพื่อจดจำเส้นทางที่ปลอดภัย หลีกเลี่ยงอันตรายในกรณีที่ผู้พิการทางการเห็นต้องเดินทางไปคนเดียว